ความพยายามอยู่ที่ไหน ความรักฉันอยู่ที่นั่น
นิยายลงเล่นๆจ้า
ผู้เข้าชมรวม
338
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
น่าจะไม่มีอ่ะ เนื้อเรื่อง เป็นนิยายสั้นๆน่าอ่านมาเลย ลองอ่านดูนะสนุกดี
ใครเขียนเรื่องนี่มีรู้เอามาฝากนะ
เอารูป ft island ไปดูก่อนล่ะกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ที่จริงภาพเยอะกว่านี่อ่ะ แต่ขี้เกียรลง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ความพยายามอยู่ไหน ความรักฉันอยู่ที่นั่น
เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฏาคา 2555
ฌ ร้าน Secret Of Sweets ซึงเป็นร้านเค้กและเบเกอรี่เล็กๆแต่ตกแต่งสถานที่ได้น่ารักเวอร์แถมรสชาติยังหอมหวานได้ใจนักชิมทั้งขาจรและขาประจำในละแวกนี้ไม่ใช่น้อย
“หวัดดีค่า มีใครอยู่ไหมค้า!”
“คร้าบ มาแล้วคร้าบบ” นายตั๊ก เด็กหนุ่มหน้าใส ไว้ผมลองทรงสั้น รูปร่างสูงโปร่ง แววตาซุกซน ส่งเสียงขานรับมาจากครัวด้านหลัง เข้าขมวดคิ้วนิดหนึ่ง เมื่อเห็นมาคนที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์เป็นเด็กสาวอายุไล่เลี่ยกับเขา ในมือของเธอมรโบชัวร์แนะนำเมนูเค้กและเบเกอรี่ของร้านนี้อยู่ด้วย
“โห! ปล่อยให้เรียกตั้งนานแน่ะ นายรู้มั้ยว่าฉันมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งเกือบสิบนาทีแล้ว ถ้าเป็นลูกค้าคนอื่นคงไม่อดทนรอเหมือนฉันหรอกนะ รู้ไว้ด้วย” เด็กสาวตาโต ผมยาวเคลียไหล่ รูปร่างกะทัดรัด ทำหน้าหงิกเล็กน้อยถึงปานกลาง แถมยังพูดจาลำเลิกบุญคุณใส่เขาอีกต่างหาก
“ขอโทษครับ แต่ถ้านาฬิกาของร้านผมไม่เสีย ผมคิดว่าสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาร้านเปิด ผมก็เลยไม่คิดว่าจะมีใครมาเรียกน่ะครับ” นายตั๊กตอบยิ้มๆพร้อมกับชี้ไปทางนาฬิการูปห่วงยางชูชีพที่แขวนอยู่บนผนังและป้ายหน้าร้านที่บอกเวลาเปิด 8.00-20.00 น. ประคำพูด
อะ...เอ่อ...” เด็กสาวรู้สึกเสียฟอร์มจนติดอ่างไปต่อไม่เป็น แต่เธอก็ยังแถต่อไป “ถึงจะยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน แต่นายไม่ได้ล็อกประตูเอาไว้ ก็แสดงว่านายพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้าแล้วจริงมั้ยล่ะ”
“โอเคครับ ถือว่าเป็นความผิดของผมเองแล้วกัน คุณมีอะไรให้ผมรับใช้ก็ว่ามาครับ”
“ช่วยไปตัดต้นไม่หลังบ้าน แล้วก็ทาสีรั้วให้หน่อยสิ” เด็กสาวตรงหน้าตั๊กพูดหน้าตาย
“หา!”
“ก็นายบอกว่ามีอะไรให้นายรับใช้ก็ว่ามาไม่ใช่เหรอ คิก คิก คิก” เด็กสาวพูดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆแต่นายตั๊กไม่หัวเราะด้วยและทำหน้าเฉยสนิท เพราะปรับอารมณ์ตามเธอไม่ทันเท่านั้นเอง “โอเคๆไม่เล่นมุกก็ได้ คือว่าฉันจะมาสั่งเค้กวันเกิดน่ะ ตอนแรกก็ว่าจะโทร.มาสั่งแหละนะ แต่ขอมาดูสภาพร้านด้วยตัวเองก่อนดีกว่า แบบไว้ไม่ค่อยไว้ใจเรื่องความสะอาดอะไรทำนองนี้น่ะ”
“ถ้าคิดว่าร้านผมสะอาดพอที่จะทำเค้กให้คุณรับประทานแล้วก็บอกมาเลยครับ ว่าจะเอาเค้กกี่ปอนด์ ต้องการรูปแบบไหน แล้วก็มารับเมื่อไหร่” นายตั๊กคงชักเริ่มหมั่นไส้ลูกค้าคนนี้ขึ้นมาตงิดๆ เลยพูดน้ำเสียงแข็งกว่าเดิม
“เอาขนาด 3 ปอนด์นะ เนื้อเค้าเป็นรสช็อกโกแลต แต่งหน้าเค้าเป็นรูปลิตเติ้ลเมอร์เมด ฉากหลังเป็นพวกกุ้งหอยปูปลา แล้วเขียนตัวหนังสือว่าแฮปปี้เบิร์ทเดอร์ทูเมอร์เมด ขอแบบที่สวยที่สุดในสามโลกเลยนะ”
“เมอร์เมดที่แปลว่านางเงือกน่ะเหรอ”
“ถูกต้อง!”
“อืมม...หวังว่าคงเป็นแค่ฉายา ไม่ใช่ชื่อจริงๆหรอกนะ พ่อแม่คนไหนตั้งชื่อให้ลูกแบบนี้ก็บ้าแล้ว” นายตั๊กบนพึมพำบ่อยคนเดียวระหว่างที่จดรายละเอียดในสมุดโน้ต แต่คงเพราะร้านเงียบมาก เด็กสาวก็เลยไดยินเต็มสองหู
“ขอบใจนะที่ชมพ่อแม่ของฉันน่ะ เพราะเมอร์เมดน่ะชื่อฉันเอง !” ยัยเมอร์เมดหรือเพื่อนๆเรียกสั้นๆว่า “ยัยเมอร์” ทำน้ำเสียงประชดประชันใส่นายตั๊ก ก็แม่เธอชอบเทพนิยายฝั่งเรื่องนี้มากนี่นา พอมีลูกจะตั้งชื่อลูกแบบนี้ไม่ได้หรือไง
“อ้าวเหรอ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ นายเนี่ยเสียมารยาทที่สุดเลย”
“ที่ผมหัวเราะเพราะคิดว่าที่แม่คุณตั้งชื่อนี้ให้เพราะเห็นว่าหน้าคุณเหมือนปลาซะอีก” นายตั๊กพูดแล้วทำแก้มป่องล้อเลียนยัยเมอร์เมดที่แก้มป่องหน่อยๆเหมือนกัน
“นายไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ลูกค้านะจะบอกให้” ยัยเมอร์เมดหันไปมองนาฬิกาที่อยู่บนผนังแล้วพูดต่อ “ฉันไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับนายแล้ว เอาเป็นว่าเค้กที่สั่งต้องได้ภายในเที่ยงวันนี้”
“เฮ้ย! เค้กร้านผมต้องสั่งล่วงหน้าไว้อย่างน้อยหนึ่งวันนะ ในโบชัวร์ที่คุณอยู่ก็เขียนระบุไว้ชัดเจน แถมคุณยังสั่งรายละเอียดไว้เยอะเวอร์ขนาดนั้นด้วย ไม่มีใครเขาทำทันหรอก”
“แล้วถ้าฉันให้ค่าเร่งมือซักห้าพันล่ะจะทำทันมั้ย” ยัยเมอร์เมดหยิบแบงค์พันกันแบงค์ห้าร้อยขึ้นมาโบกสะบัด แล้วเชิดหน้าพูดอย่างหยิ่งๆเพราะคิดว่ายังไงไงซะเงินก็น่าจะซื้อได้ทุกอย่าง นายตั๊กจ้องหน้าเธอซักพักแล้วก็พยักหน้า
“ก็คงได้มั้ง! แต่ค่อยไว้บ่ายสองค่อยมาเอานะ ขอเวลาเพิ่มอีกสองชั่วโมงแล้วกัน เดี๋ยวเค้กไม่อร่อย”
“ก็ด้ะ! แต่อย่าลืมนะ บอกชั่งทำเค้กว่าทำให้สวยที่สุดเพราะนี่เป็นวันเกิดอายุครบ 18 ปี ของฉัน”
“คร้าบ! คุณเมอร์เมดดดด”
บ่ายสองโมงตรง ยัยเมอร์เมดเปิดประตูร้าน Secret Of Sweets เข้ามาด้วยรอยยิ้มที่น่าจะถือว่าสดใสที่สุดในชีวิต เพราะตื่นเต้นกับเค้กที่สั่งทำอย่างอลังการงานสร้าง ด้วยเงินที่หยอดกระปุกเองโดยเฉพาะเป็นปีแรก
“กริ๊ด...ด! นี่มันอะไรกันเนี่ย นางเงือกอะไรครีบหางเป็นสีเขียวอี๋เลยไม่ใช่ปลาหางนกยูงนะ ช่างทำเค้กของนายไม่เคยเห็นตัวละครลิตเติ้ลเมอร์เมดหรือไง ทำครีบเป็นสีส้ม สีชมพูอะไรทำนองนี้สิ”
“บังเอิญว่าชั่งทำเค้กร้านนี้รู้จักแต่ปลาหางนกยูง ปลากัด ปลาช่อนอะครับ ลิตเติ้ลเมอร์เมดไม่รู้จัก”
“เรื่องสีครีบยังไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมลิตเติ้ลเมอร์เมดถึงได้ก้นใหญ่ขนาดนี่หา! มันผิดสัดส่วนไม่เห็นหรือเหรอเนี่ย”
“ไม่ผิดสัดส่วนหรอกครับ ก็ผมบอกช่างให้วาดจากหุ่นจริงของคุณตามที่ผมเห็นนี่แหละ”
“นี่นายหาว่าฉันก้นใหญ่งั้นเหรอ”
“ผมไม่ได้หาว่านะ แต่มันเรื่องจริงเลย ต่างหาก ไม่เชื่อคุณก็หันไปดูกระจกสิ ตัวเล็กแต่ก้นเบ้อเริ่มเทิ่มเลย หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” นายตั๊กพูดแล้วก็หัวเราะก๊ากออกมา
“ฉันให้เวลาแก้ใหม่ 2 ชั่วโมง เดี๋ยวบ่าย 4 ฉันจะมาเอา!” ยัยเมอร์เมด หยุดเสียงหัวเราะของนายตั๊กด้วยคะสั่งเฉียดขาด
“ครับ!”
นายตั๊กโบกมือบ๊ายบายยัยเมอร์เมดที่ทำหน้าหงิกเหมือนกระดาษฟลอยด์ที่ถูกขยำ พอยัยเมอร์เมดคล้อยหลังไปแล้ว นายตั๊กก็ถือถาดเค้กกับเข้าไปที่ครัวด้านหลัง และบอกให้พ่อของเขาซึ่งเป็นช่างใหญ่ประจำร้านออกไปเฝ้าร้านแทน เพราะที่จริงแล้วเค้กก้อนนี้นายตั๊กเป็นคนเองกับมือ เหมือนกับเค้กและเบเกอรี่อีกนับไม่ถ้วนที่เขาได้รับถ่ายทอดวิทยายุทธ์มาจากพ่อเต็มๆ นั่นแหละ
เมื่อถึงตอนบ่าย 4 โมงนิดๆยัยเมอร์เมดก็กลับมาอีกครั้ง และหวังเต็มที่ว่าเค้กจะต้องเสร็จสมบูรณ์ทันกับงานวันเกิดที่จัดขึ้นตอน 5 โมง
“อีตาบ้า! นายไปเรียกช่างทำเค้กที่ร้านนายออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ มีอย่างที่ไหน ทำลิตเติ้ลเมอร์เมดให้มีหางเป็นสองแฉก ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะ”
“ช่างทำเค้กไม่อยู่แล้วครับ เพิ่งกลับบ้านไปเมื่อกี้นี้เอง”
“อ้าว! แล้วร้านนายมีช่างอยู่คนเดียวเหรอ ให้คนอื่นช่วยแก้ไขให้สิ”
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ ต้องใช้คนที่มีหัวครีเอทจริงๆถึงจะทำได้” นายตั๊กแอบชมเองเบาๆเพราะเขานั่นแหละที่ทำลำแก้ไขเค้กอยู่คนเดียวทั้งหมด
“แล้วนายจะให้ฉันเอาเค้กสภาพแบบนี้ไปอวดเพื่อนตั้งสิบหกว่าคนเนี่ยนะ นายจะบ้าเหรอ เพื่อนๆจะได้หัวเราะฉันตายเลยล่ะ”
”ถ้างั้นดูเค้กอันอื่นในร้านแทนดีมั้ยล่ะ เพราะยังไงก็ไม่มีใครแก้ให้ทันจริงๆ”
“ไม่เอาย่ะ! เค้าของฉันต้องมีเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นฉันเท่านั้นเดี๋ยวฉันไปดูที่ร้านเค้กหัวมุมถนนด้านโน้นก็ได้ ฮึ่ย! คิดผิดจริงๆเลยที่มาสั่งทำเค้กร้านนี้”
ยัยเมอร์เมดเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากร้าน เพราะทุกปีจะสั่งทำเค้กจากร้านใกล้บ้าน แต่เพราะเธอเห็นว่ามีโบชัวร์ของร้านนายตั๊กเสียบอยู่หน้าบ้านบ่อยๆก็เลยกะจะลองลิ้มรสชาติใหม่ดูบ้าง เธอเลยจำใจต้องกลับไปถึงร้านเดินใกล้บ้านตามระเบียบ
แต่แล้วเมื่อยัยเมอร์เมดไปถึงที่รานประจำนั้นเอง เธอพบว่าร้านปิดเงียบเชียบและมีป้ายเขียนไว้ว่าหยุด 1 วัน ยัยเมอร์เมดถึงกับเดินร้องไห้กลับบ้าน เพราะไม่นึกว่าจะเจอเหตุการณ์แย่แบบนี้ในวันเกิดของตัวเอง
“เฮ้ย! ยัยเมอร์เมด นี่พวกเราก็กินข้าวกันพุงปลิ้นตั้งนานแล้วนะ เมื่อไหร่แกจะเอาเค้กที่คุยนักคุยหนาว่าเริดที่สุดในสามโลกไงเอาออกมาอวดซะดีๆ ยังไงวันนี้เค้กก้อนนั้นก็ต้องโดนพวกเรากินอยู่ดีนะ จะมัวเสียดายอยู่ทำไม”
เพื่อนๆของยัยเมอร์เมดทั้งสิบสิงคน รวมทั้งพ่อแม่และน้องเธอด้วยมานั่งล้อมวงกันเพื่อรอลโฉมเค้กก้อนนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่ายัยเมอร์เมดจะทำใจกับเรื่องที่ไม่มีเค้กในงานวันเกิดปีนี้ไม่ได้ จนถึงกับยังไม่กลัวบอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น
“เอ่อ...ขอโทษนะ คือว่า...”
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทู้ยูๆๆ” เสียงอวยพรวันเกิดดังขึ้น แต่มันไม่ใช่เสียงเกิร์ลแก๊งที่มาร่วมงานวันเกิดหรือคนในครอบครัวยัยเมอร์เมดน่ะสิ มันเป็นเสียงของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า นายตั๊กต่างหาก
“แอร๊ยย!! เค้กโครตๆเลยอะแก”
“ใช่ๆว่าแต่นี่ใครเหรอ พวกเราตกข่าวอะไรกันหรือเปล่า” เพื่อนอีกคนแซวเสียงดัง
ยัยเมอร์เมดทั้งเขินทั้งทึ้ง พูดอะไรไม่ออกกันเลยทีเดียว เมื่อเห็นวันเกิดที่นายตั๊กถือมา เพราะหน้าเค้กเก็นรูปลิตเติ้ลเมอร์เมดที่รูกร่างอรชรอ้อนแอ้นสมส่วน มีเปลือกหอยปิดที่หน้าอกกันอนาจาร แยมสีชมพูอมส้มโรยด้วนเกล็ดน้ำตาลในส่วนหางดูระยิบระยับสะดุดตา ด้านตัวเค้กที่เป็นครีมก็แตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เทียนที่จุดก็เป็นแท่งไฟเย็นอันเล็กๆที่ไม่บดบังความสวยงามของเค้กด้วย สรุปคือมันสวยมากจนแทบจะกินไม่ลงเลยก็ว่าได้
“หลับตาแล้วกฌอธิษฐานก่อนสิ” นายตั๊กพูดยิ้มๆเมื่อยัยเมอร์เมดสบตากับเขาแล้วหน้าแดง และเมื่อยัยเมอร์เมดอธิษฐานจบไฟเย็นก็ดับลงพอดี
“ขอบใจมากนะ และขอโทษด้วยที่ว่านายแรงขนาดนั้น”
“เหอะ! ไม่หรอกไม่เป็นไร ฉันไม่เคยทำอย่างนี้ให้ลูกคนไหนล่ะนะ ที่ฉันแกล้งทำผิดเพราะฉันเซอร์พรส์เธอต่างหาก”
“หา! จริงดิ”
“จริง”
“เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้นายบอกว่าทำเองงั้นเหรอ”
“ใช่”
“และนายมาบ้านฉันถูกได้ยังไงอ่ะ”
“ฉันจะมาบ้านคนที่ฉันแอบชอบมาหนึ่งปีเต็มไม่ถูกได้ยังไงล่ะ”
“ว่าไงนะ แอบชอบฉันทำไมฉันไม่รู้อะไรเลยล่ะ”
“เธอจำฉันไม่ได้หรอก แต่...ชั่งเถอะ แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดตอนนี่คือ...”
“คืออะไร”
“เธอมาคบกับฉันได้ไหม”
“ว่าไงนะ”
“ถ้าเธอมาคบกันฉัน ฉันจะทำเค้กให้เธอกินทุกวันเลย”
ยัยเมอร์เมดทำหน้าเขินอายก่อนที่จะตอบ “ก็ได้”
“ไชโย สำเร็จแล้ว” นายตั๊กดีใจ จนกระโดดกอดยัยเมอร์เมด ตอนนี้ความรักของทั้งคู่จึงได้เริ่มต้นขึ้น ไม่รู้ว่าอนาคตของทั้งสองจะเป็นยังไง แต่ยังไงสองคนนี้ก็จะรักกันตลอดไป^^
จบแล้วน้อ กันนิยายดีๆที่เอามาฝากกัน ไหนๆก็ไม่มีอะไรทำแล้วเลยลงนิยายให้อ่าน ติดตามด้วยนะจ้า
นิยาย รักหมดใจหนุ่ม boy bang ติดตามด้วยน้อ เรื่องกำลังแต่งไปด้วยดี
http://writer.dek-d.com/yongjong-guiter/writer/view.php?id=841828
ส่วนเรื่องนี่ diatance the winter เรื่องดองไว้อยู่เลย นึกไม่ออกแล้วเดียวเราจะพยายามแต่งจ้า
http://writer.dek-d.com/yongjong-guiter/writer/view.php?id=841625
ผลงานอื่นๆ ของ song yongjoon ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ song yongjoon
ความคิดเห็น